ดราม่าภาษีผ้าอนามัย

ปรุฬห์ รุจนธำรงค์

ผ้าอนามัยเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับสตรี เคยมีประเด็นวิจารณ์มาพักใหญ่ว่ามีราคาสูงเกินไปหรือไม่ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมอะไรเป็นพิเศษไหม

ข่าวในตอนแรกทำให้เข้าใจว่าทำนองว่ารัฐบาลมีแนวคิดเก็บภาษีเพิ่มเติมเกี่ยวกับผ้าอนามัย (ทำเหมือนมีข่าววงในว่าจะให้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย) ทำให้ความกังวลเรื่องราคาผ้าอนามัยยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

แต่ดูจากการให้ข่าวของนักการเมืองล่าสุด คงเป็นการตีความตามความเข้าใจของนักการเมืองในกฎหมายแต่ละฉบับมาตีความรวมกัน ดังนี้

1. ผ้าอนามัยกับสถานะเครื่องสำอาง ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นเรื่องการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ประเด็นนี้ก็เห็นใจนักการเมืองคนนี้ทันที เพราะตามกฎหมายไทยกำหนดให้ผ้าอนามัยเป็นเครื่องสำอาง พอเห็นอะไรที่เป็นเครื่องสำอางก็รู้สึกกังวลทันที

2. เครื่องสำอางกับภาษีสรรพสามิต แม้ว่ารายการเครื่องสำอางจะอยู่ในตอนที่ 9 ของบัญชีพิกัดภาษีสรรพสามิต (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/032/1.PDF) แต่จะอ่านผ่านๆ แค่นี้ไม่ได้ ต้องดูรายละเอียดประเภทรายการว่าจะเก็บอะไร เก็บเท่าไหร่ ตลอดจนดูกฎกระทรวงในเรื่องนี้ประกอบกันด้วย ซึ่งในปัจจุบันยังเก็บภาษีสรรพสามิตแค่น้ำหอม หัวน้ำหอม และน้ำมันหอม ซึ่งปัจจุบันยังไม่เก็บภาษีผ้าอนามัย แต่อนาคตจะเก็บหรือไม่ต้องมีกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตออกมาก่อน จะตีความว่ามีกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางส่งผลให้เก็บภาษีสรรพสามิตตามพระราชบัญญัติสรรพสามิตทันทีไม่ได้

3. เครื่องสำอางในฐานะสินค้าควบคุม สินค้าใดที่จะมีราคาขายไม่เป็นธรรม ก็ประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ได้ แต่ประกาศให้เป็นสินค้าควบคุมไม่ใช่หมายความว่าสินค้านั้นไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือยหรือมีมาตรการควบคุมราคาที่ดีแล้ว ต้องดูว่าหลังจากกำหนดให้เป็นสินค้าควบคุมมีการกำหนดมาตรการอะไรตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 26 อีกหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันมี ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 85 พ.ศ. 2562 เรื่อง การแจ้งต้นทุน ราคาและรายละเอียดเกี่ยวกับผ้าอนามัย (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/201/T_0168.PDF) ดังนั้น นักการเมืองหรือผู้เกี่ยวข้องจึงควรดูว่ามาตรการในประกาศนี้เพียงพอกับการควบคุมราคาผ้าอนามัยหรือทำให้ผ้าอนามัยมีราคาถูกลงหรือไม่

ประเด็นที่นำเสนอมาข้างต้นนี้ คงพอช่วยให้เข้าใจดราม่าผ้าอนามัย ทำให้เข้าใจวิธีคิดของบางท่านให้ชัดเจนขึ้น และอาจจะช่วยให้มีวิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ดียิ่งขึ้น

_____________

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ภาษีและนิติบุคคล, เครื่องสำอาง และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s