มิตรสหายหลายท่านถามมาว่า ยาที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษควรวางไว้เฉพาะจุดให้บริการโดยเภสัชกรหรือไม่
ปัญหานี้ ตอนนี้ก็กำลังเป็นที่ถกเถียงเรื่องการตรวจ GPP ของร้านยาในขณะนี้ว่ามีแนวปฏิบัติไม่เหมือนกัน
เรื่องนี้ ผมได้เคยพูดถึงในการอบรม Pharmapreneure เคล็ด(ไม่) ลับผู้ประกอบร้านยา ซึ่งจัดโดยเภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2561 แล้วว่า เป็นปัญหาดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ความเคร่งของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ (ดูประเด็นต่าง ๆ ได้ที่ https://goo.gl/DTF6Wb)
ประเด็นนี้มันมีความเกี่ยวพันกับเรื่องเวลาทำการของร้านยาด้วย (โปรดดูเวลาที่แจ้งไว้ในใบ ข.ย.5)
1. ถ้าอยู่นอกช่วงเวลาทำการของร้าน ตามหลักการขายได้เฉพาะยาสามัญประจำบ้านเท่านั้น ดังนั้น ในส่วนที่ให้บริการตนเองก็มียาสามัญประจำบ้านวางได้ (ต้องดูให้ดีนะครับ ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ยา ต้องมีคำว่า “ยาสามัญประจำบ้าน” ในกรอบสีเขียวให้เห็นด้วย) ส่วนยาที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ยาแผนโบราณที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน หากไปไว้ในส่วนที่ประชาชนบริการตนเอง จะมีปัญหาว่าเข้าข่ายมีไว้เพื่อขาย เป็นขายยาได้ และเมื่ออยู่นอกเวลาทำการด้วย เจ้าหน้าที่จึงตีความว่าเป็นการขายยานอกเวลาทำการได้
คำแนะนำในกรณีที่พบยาที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ ยาแผนโบราณที่ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน เจ้าหน้าที่ (หรือผู้ไปให้คะแนน GPP) มักจะถามว่า มีเปิดร้านนอกช่วงเวลาที่แจ้งไว้หรือไม่ (แจ้งในใบ ข.ย.5) ถ้ามีจะถูกแนะนำห้ามขายยานี้นอกช่วงเวลาทำการที่แจ้งไว้ เช่น ให้นำไปเก็บไว้ในพื้นที่ให้บริการโดยเภสัชกร หรือให้แยกออกจากยาสามัญประจำบ้านแล้วใช้วัสดุทึบปิดบัง
2. ถ้าอยู่ในเวลาทำการของร้าน กฎหมายบอกว่าให้แยกยาเป็นส่วนสัด แต่ไม่ได้บอกว่า ให้วางไว้ตรงไหนได้บ้าง ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาดุลพินิจของเจ้าหน้าที่โดยแท้ กล่าวคือ ในเขตกรุงเทพมหานครไม่ได้ห้ามวางในส่วนบริการตนเอง (ยกเว้นว่าเข้าข่ายกรณีตามข้อ 1 ซึ่งอยู่นอกเวลาทำการ) แต่บางจังหวัดห้าม
_____________
เรื่องอื่นที่แนะนำ โปรดดู https://goo.gl/CTnxRJ
ปรุฬห์ รุจนธำรงค์
21 ตุลาคม 2561
(ระบุชื่อและเวลา จะได้ดราม่าได้ถูกคนครับ)
ปล. ใครสนใจร่วมปรับปรุงคู่มือการตรวจ GPP แจ้งชื่อได้นะครับ
WIZSASTRA 