กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560 หน้า 8
กรุงเทพธุรกิจ “อีไล ลิลลี่” เล็ง ปลดพนักงาน 3,500 คนในสหรัฐ พร้อมปิดโรงงานหลายแห่งเพื่อลดต้นทุน
อีไล ลิลลี่ ผู้ผลิตยาชื่อดังสัญชาติสหรัฐ ประกาศปลดพนักงานในสหรัฐ 3,500 คน หรือกว่า 8% ของพนักงานทั่วโลก พร้อมปิดโรงงานผลิตหลายแห่ง เพื่อลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ โดยดำเนินการผ่านโครงการเกษียณจากงานก่อนกำหนด
ความเคลื่อนไหวของอีไล ลิลลี่ครั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจได้ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งเงินในส่วนนี้ราวครึ่งหนึ่งจะนำไปพัฒนายาใหม่ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 บริษัทซึ่งมีฐานดำเนินงานอยู่ในรัฐอินเดียนา สหรัฐ มีพนักงานทั้งสิ้นจำนวนกว่า 41,000 คนทั่วโลก มีรายได้กว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8% จากเมื่อปีก่อน และมีกำไร 897 ล้านดอลลาร์แต่บริษัทได้แจ้งเตือนบรรดานักลงทุนว่าผลประกอบการหรือกำไรอาจไม่เป็นไปตามที่คาด เนื่องจากสิทธิบัตรยาที่ช่วยให้เลือดลดความเข้มข้น และยารักษาโรคเอดีเอชดีหมดอายุลงแล้ว ทำให้บริษัทหมดสิทธิ ในการจำหน่ายยาซิอัลลิสภายในปลายปี 2561 นี้ ประกอบกับบริษัท ยังไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนายาตัวใหม่ๆ
อีไล ลิลลี่ ไม่ต่างจากบรรดาบริษัทเวชภัณฑ์สหรัฐรายอื่นๆ ที่ได้รับแรงกดดันด้านราคายาจากบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และยังเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่ดุเดือดจากบรรดาคู่แข่ง โดยนายเดวิด เอ. ริกส์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) อีไล ลิลลี่ กล่าวว่า การลดพนักงานครั้งนี้จะทำให้บริษัททำงานได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น และบริษัทจะเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายระยะยาวต่อไป เช่น การกระตุ้นรายได้ให้เติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ และเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานให้ได้ตามเป้า
การลดพนักงานครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทประกาศปลดพนักงานเกือบ 500 คนหลังจากยารักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่บริษัทพัฒนาให้ผลในการรักษาไม่เป็นไปตามเป้าที่บริษัทวางไว้ อีกทั้ง สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ยังร้องขอข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนายารักษาโรครูมาตอยด์จากบริษัทเพิ่มเติม